เมนู

โกลว์ประกาศผลประกอบการสำหรับไตรมาสแรกของปี 2562 โดยมี Normalized Net Profit เท่ากับ 2.1 พันล้านบาท

  • ธุรกรรมการขายบริษัท โกลว์ เอสพีพี 1 จำกัด และการซื้อหุ้นของบริษัทจำนวนร้อยละ 69.11 โดยบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) เสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์
  • การซ่อมบำรุงตามแผนของโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน แล้วเสร็จเร็วกว่ากำหนด
  • การนำมาตรฐานบัญชีฉบับใหม่มาใช้

ผลประกอบการสำหรับไตรมาสแรกของปี 2562 มีดังนี้:

  • รายได้รวม 12,982 ล้านบาท
  • EBITDA (ไม่รวมรายการปรับปรุงบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีเกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน (TFRIC4) และมาตรฐานบัญชีเกี่ยวกับรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า (TFRS15)) จำนวน 3,627 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ จำนวน 1,901 ล้านบาท และ
  • Normalized Net Profit (NNP)1 จำนวน 2,057 ล้านบาท

EBITDA สำหรับไตรมาสแรกของปี 2562 ลดลงร้อยละ 20 ในขณะที่ NNP ลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561

การหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ ในไตรมาสแรกของปี 2562

นายปจงวิช พงษ์ศิวาภัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทโกลว์ กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ในไตรมาสแรกของปี 2562 ธุรกรรมการซื้อหุ้นของบริษัทจำนวนร้อยละ 69.11 โดยบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ได้สำเร็จลุล่วงอย่างสมบูรณ์ นอกจากนั้น บริษัทได้ประสบความสำเร็จในการขายหุ้นทั้งหมดในบริษัท โกลว์ เอสพีพี 1 จำกัด ในราคา 3,300 ล้านบาท โดยบริษัทได้รับรู้กำไรจากการขายหลังหักภาษีจำนวน 512 ล้านบาท ในงบกำไรขาดทุนของบริษัทในไตรมาสแรกของปี 2562 อย่างไรก็ตามผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2562 ที่ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนของหน่วยผลิตหลัก ซึ่งคือ โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน แม้ว่าการซ่อมบำรุงตามแผนของโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน จะใช้เวลาเพียง 39 วัน ซึ่งเร็วกว่าที่วางแผนไว้ก็ตาม ในส่วนของกลุ่มโรงผลิตไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมและไอน้ำ (Cogeneration) นั้น ปริมาณความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำของลูกค้าอุตสาหกรรมยังคงอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงกับไตรมาสแรกของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรของกลุ่มธุรกิจ Cogeneration ยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาก๊าซธรรมชาติ และราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง แม้จะมีการปรับขึ้นค่าเอฟทีจำนวน 4.30 สตางค์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาก็ตาม”

การเปลี่ยนนโยบายทางการบัญชี

นางศิโรบล บุญถาวร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงินกลุ่มบริษัทโกลว์ กล่าวว่า “บริษัทได้เริ่มนำมาตรฐานรายงานทางการเงินฉบับใหม่เกี่ยวกับรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า (TFRS15) มาใช้ในการรับรู้รายได้จากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่องบการเงินของบริษัทตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2562 เป็นต้นไป โดย ณ วันที่ 1 มกราคม 2562 บริษัทได้ทำการปรับลดกำไรสะสมในงบแสดงฐานะทางการเงินรวมของบริษัทลงเป็นจำนวน 5,821 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับปรุงที่ส่งผลกระทบต่อกำไรสะสมเพียงครั้งเดียว (one-time adjustment) เพื่อรับรู้ผลกระทบสะสมย้อนหลังจากการนำมาตรฐานรายงานทางการเงินฉบับใหม่ดังกล่าวมาใช้ นอกจากนั้นมาตรฐานรายงานทางการเงินฉบับใหม่ดังกล่าวยังทำให้บริษัทต้องทำการปรับลดการรับรู้รายได้จากการขายและบริการในปี 2562 ลง โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2562 มีจำนวน 345 ล้านบาท”

[1] คือ กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ รายได้หรือค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และรายการปรับปรุงตามมาตรฐานบัญชีเกี่ยวกับสัญญาเช่าทางการเงิน (TFRIC4) และมาตรฐานบัญชีเกี่ยวกับรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า (TFRS15)

เกี่ยวกับโกลว์ พลังงาน

บริษัท โกลว์ พลังงาน เป็นบริษัทหนึ่งในกลุ่มโกลว์ ซึ่งประกอบธุรกิจด้านพลังงานรายใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศ โดยมีกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้น 3,084 เมกะวัตต์ (ส่วนของโกลว์เท่ากับ 2,268 เมกะวัตต์) และมีกำลังผลิตไอน้ำทั้งสิ้น 1,116 ตันต่อชั่วโมง

กลุ่มบริษัทโกลว์ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้สัญญาการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) รวมทั้งผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำเพื่อการอุตสาหกรรมให้กับบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมมาบตาพุดและนิคมใกล้เคียง

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) ซึ่งเป็นแกนนำธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. ได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2562 เป็นต้นมา

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มบริษัทโกลว์ได้ที่เว็บไซต์ www.glow.co.th และสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GPSC ที่เว็บไซต์ www.gpscgroup.com

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ

นายประพนธ์ ชินอุดมทรัพย์

บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน)

โทร. 02-670-1500-1

Email: prapon@glow.co.th

ย้อนกลับ